วิธีการใช้และดูแลเครื่องเสียงรถยนต์

วิธีการใช้และดูแลเครื่องเสียงรถยนต์

           การดูแลบำรุงรักษาเครื่องเสียงรถยนต์

     ปัจจุบันนี้การติดเครื่องเสียงรถยนต์ถือว่าได้รับความนิยมกันเป็นอย่าง มาก แม้กระทั่งในงานแข่งก็มีรถเข้าแข่งขันมากมาย เมื่อเครื่องเสียงได้รับความนิยม จำนวนรถที่ติดเครื่องเสียงเยอะ ดังนั้นการจะเล่าถึงเรื่องการดูแล บำรุงรักษาเครื่องเสียงก็เลยน่าที่จะสำคัญระดับหนึ่งเลยทีเดียว

     เครื่องเสียงรถยนต์เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่มีความสำคัญภายในรถ หากเกิดความเสียหายขึ้นมา อาจจะต้องนำรถเข้าตรวจสอบ ซึ่งก็เหมือนกับการซ่อมรถนั่นแหละ เพราะอุปกรณ์ต่างๆก็ถูกติดมาในรถทั้งสิ้น นอกจากนี้แล้วเครื่องเสียงติดรถยนต์เองก็มีราคาสูงไม่ใช่น้อย การดูแล บำรุงรักษาเครื่องเสียงให้อยู่กับเราไปนานๆก็ถือว่ามีความจำเป็นครับ ผมจะเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับการดูแลรักษาเครื่องเสียงให้อยู่กับเราไปนานแสนนาน ครับ

          การดูแลรักษาในเรื่องของตัวรถ

     1.การจอดรถ ควรจะจอดในที่ร่มไม่โดนแดดไว้ก่อน ( ปัจจุบันนี้คงลำบากในการหาที่จอด ) หรือหากมีความจำเป็นที่ต้องจอดในที่โล่งแดดจัด ก็ต้องมีม่านบังแดดบังหน้ากระจกรถไว้ทุกด้านที่แดดส่องได้ หรือหากมันเยอะไปก็บังในส่วนที่เป็นลำโพงบนเสา A-Pillar ก็ได้ เพราะหากแดดส่องโดนลำโพงทำให้ตัวลำโพงเสื่อมสภาพเร็วครับ เช่น ขอบลำโพงอาจจะเปื่อยเร็วขึ้น , วอยซ์คอยซ์น้ำยาลวานิชที่เคลือบลวดทองแดงอาจจะละลายแล้วทำให้ขดลวดช็อตกัน หรือกรวยของลำโพงซีดและหมดสภาพไปได้เช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้เสียงที่ออกมาจากลำโพงเกิดความผิดเพี้ยนไป ไม่ดีเท่าที่ประสิทธิภาพของมัน การติดฟิล์มรถยนต์ที่ลดแสงมากๆอาจจะช่วยได้บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ดังนั้นการใช้ม่านบังแดดเพิ่มเข้ามาดูจะเป็นการดูแลที่ดีกว่าครับ นอกจากนี้การปิดม่านบังแดดตอนจอดยังช่วยปิดบังซ่อนเร้นตัวลำโพงหรือฟร้อนจาก พวกมิชฉาชีพได้ระดับหนึ่งด้วย จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะทำครับ

     2.การสตาร์ทเครื่องยนต์ ทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ต้องตรวจดูว่าวิทยุ และระบบเครื่องเสียงของเราได้ทำการปิดระบบเครื่องเสียงเรียบร้อยแล้ว เพราะขั้นตอนของการสตาร์ทอาจจะมีไฟกระชากอย่างมหาศาลซึ่งอาจจะทำให้ตัว อุปกรณ์ในระบบเสียหายได้ เช่นที่เจอบ่อยๆคือกราวด์ของฟร้อนขาด ทำให้เกิดเสียงหวีดเวลาเร่งเครื่อง หรือหน้าจอของฟร้อนไม่ติดก็เคยมีครับ นอกจากนี้แล้วก่อนสตาร์ทรถก็ต้องดูเรื่องของระบบแอร์ในรถด้วยครับ ว่าเปิดอยู่หรือเปล่า บางทีตอนลงจากรถไปอาจจะลืมปิดแอร์ ควรตรวจสอบก่อนสตาร์ทด้วยเช่นกัน ส่วนในขั้นตอนก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ ก็ควรจะปิดวิทยุในรถเสียก่อนเพื่อตัดระบบเครื่องเสียงทั้งหมด การเดินสายรีโมทสำหรับเปิดระบบนั้นต้องเดินจาก remote out จากฟร้อนเท่านั้น เพื่อให้ฟร้อนเป็นตัวควบคุมระบบทั้งหมด ให้ฟร้อนเป็นตัวสั่งให้พาวเวอร์แอมป์ โปรเซสเซอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆทั้งหมด เพราะหากปิดฟร้อน อุปกรณ์ในระบบทั้งหมดจะได้ปิดไปด้วยครับ

     3.แบตเตอรี่รถยนต์ ต้องหมั่นดูน้ำกลั่นอย่าให้ขาด ระดับน้ำกลั่นลดกว่าที่กำหนด แบตเตอรี่ถ้าครบอายุการใช้งานควรเปลี่ยนใหม่ และการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ใหม่นั้นควรจะต้อง Slow ชารท์ไว้ก่อนอย่างน้อย 3-6 ชั่วโมงจึงนำมาใส่ในรถยนต์ แบตเตอรี่จะให้กำลังไฟอย่างมีคุณภาพเต็มร้อย หากแบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นก็ให้ดูช่องตาแมวว่าสภาพ แบตเตอรี่ยังดีอยู่หรือเปล่า โดยปกติควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 3 ปี เพราะเกินจากนั้นไปแบตจะเริ่มเสื่อมสภาพ เสียงที่ได้ก็ประสิทธิภาพต่ำลงเช่นเดียวกัน อาจจะเกิดเพี้ยนหรือเวทีเสียงผิดเพี้ยนไปได้

     4.การล้างรถ สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือควรจะทำความสะอาดบริเวณห้องเครื่องด้วย ป้องกันพวกหนูเข้ามากัดสายไฟ เพราะสัตว์จำพวกนี้ไม่ค่อยชอบความสะอาด กำจัดร่องรอยการเดิน กำจัดกลิ่นของหนูออกไปด้วย การเช็ดภายในรถให้ใช้น้ำธรรมดา อย่าใช้น้ำยาที่มีความเหนียว มันวาว และห้ามเช็ดที่หน้ากรวย หรือดอกอกลำโพงอย่างเด็กขาดเพราะจะทำให้ลำโพงเสื่อมสภาพเร็ว ควรทำกริลป้องกันลำโพงเอาไว้ด้วยครับ เผื่อเด็กล้างรถเผลอไปเช็ดจะได้ไม่เป็นอะไรครับ การดูฝุ่นภายในรถควรจะทำบ่อยๆ กันพวกฝุ่นเล็กๆเข้าไปสะสมกันบนอุปกรณ์เครื่องเสียง ไม่ว่าจะติดตามหน้าจอของวิทยุ บนบอร์ดของพาวเวอร์แอมป์ หรือโปรเซสเซอร์ก็แล้วแต่ เพราะฝุ่นพวกนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ซึ่งจะทำความเสียหายแก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ครับ

          การดูแลรักษาในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องเสียง

     1.ฟิวส์และกระบอกฟิว ส์ที่ติดตั้งในห้องเครื่อง ควรมีการใส่ไว้ในกล่องหรืออุปกรณ์ที่มีลักษณะกันน้ำได้ เพื่อป้องกันน้ำเข้าไปภายในกระบอกฟิวส์ซึ่งอาจจะเกิด oxide และสร้างความเสียหายขึ้นมาได้ ส่วนอุปกรณ์ฟิวส์ที่ติดตั้งภายในรถก็ควรเป็นระบบปิด มีอุปกรณ์ป้องกันเช่นเดียวกัน เผื่อมีเส้นลวดทองแดงตกลงไปทำให้ระบบเกิดความเสียหายได้เช่นกัน

     2.ระบบไฟและแบตเตอรี่ ถือว่าสำคัญ ควรตรวจดูแบตเตอรรี่ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เช่น ขั้ว + และ – ขันให้แน่น อย่าให้มีขี้เกลือ ถ้ามีให้ใช้น้ำร้อนราด และทาด้วยจารบี มั่นตรวจดูน้ำกลั่นอย่าให้ต่ำกว่าที่ระดับที่บอกอกเอาไว้

     3.ฟร้อน ควรมีการเช็ดฝุ่นทำความสะอาดอยู่เสมอ การยึดฟร้อนเข้ากับโครงรถควรยึดให้แน่น หากเป็นฟร้อนที่ถอดหน้าจอได้ ควรถอดหน้าจอเก็บไว้หากจะจอดรถไว้นานๆ ซึ่งส่วนมากฟร้อนที่ถอดหน้าจอได้จะให้ซองใส่หน้าจอมาให้ด้วย เราก็แค่ถอดเก็บไป หรือหากใช้ไปนานๆ จนฟร้อนมีอาการติดๆดับๆ ควรถอดมาหน้าจอออกมาเพื่อทำการล้างหน้าคอนเท็ค ( contect ) หรือหน้าสัมผัสของตัวนำ เพื่อล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ที่หน้าสัมผัสอาจจะเป็น เขม่า คราบน้ำมัน หรือ คราบไขมันเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม หรืออาจจะถอดทำความสะอาดทุกเดือนก็ได้ครับ ทำเป็นนิสัยไปเลย หากมีเหตุจำเป็นต้องถอดฟร้อนออกจากรถ ก็ควรถอดออกมาโดยแยกหน้าจอใส่ซองไว้ต่างหาก ตัวเครื่องควรห่อด้วยพลาสติกแรพ หรือใส่ถุงเอาไว้ก็ได้ครับ

     4.ลำโพง หากติดอยู่ในรถก็ควรปิดม่านบังแดดไม่ให้โดนลำโพง การติดตั้งลำโพงต้องใส่กริลป้องกันลำโพงกันเด็กไปโดน หรือหากถอดออกมาจากรถเก็บไว้ ก็ควรห่อหุ้มอย่างดีด้วยพลาสติก เพื่อป้องกันฝุ่นตกลงไปในช่องของวอยซ์คอยซ์ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลำโพงวอยซ์เบียด

     5.พาวเวอร์แอมป์ และโปรเซสเซอร์หรือครอสโอเวอร์ ควรติดตั้งไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้พาวเวอร์แอมป์ระบายความร้อนได้ดี หรือหากต้องติดตั้งไว้ในที่ปิดทึบก็ควรเจาะช่องใส่พัดลมเพื่อระบายอากาศเอา ไว้ด้วย หากจำเป็นต้องติดตั้งพาวเวอร์แอมป์ไว้ใต้เบาะ ให้ทำการตัดไม้ขนาดเท่ากับพาวเวอร์แอมป์เพื่อเป็นฐานงางพาวเวอร์แอมป์ ไม่ควรวางพาวเวอร์แอมป์บนพื้นรถโดยตรง เพราะหากทำการขับรถลุยน้ำยามฝนตกหนักอาจจะทำให้น้ำซึมเข้าไปในพาวาว เวอร์แอมป์ จนเกิดความสัยหายขึ้นมาก็เป็นได้ครับ การถอดพาวเวอร์แอมป์มาเก็บไว้ ก็ควรจะหุ้มด้วยพลาสติกแรพหรือฟิล์มใสไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการห่อหุ้มนี้จะช่วนกันฝุ่นตกลงไปใน PCB เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเก็บไว้นานเท่าไหร่ หากไม่หุ้มไว้รับรองได้ ฝั่นหนาแน่นอนครับ การถอดอุปกรณ์เก็บไว้เพื่อรอการติดตั้งหรือรอขายก็ตามแต่ นอกจากจะต้องห่อหุ้มด้วยฟิล์มใสแล้ว ยังควรเก็บไว้ในกล่องด้วยกัน อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่และหนักควรอยู่ล่างสุด ส่วนตัวฟร้อนควรใส่กล่องแยกไว้ต่างหาก เพราะฟร้อนมีหน้าจอที่จะแตกเสียหายได้ครับ

ที่มาของแหล่งข้อมูล : http://hgnff.com/?p=1348

      จำลองอีเล็คทริค, jumlongelectric, เครื่องเสียงบ้านหม้อ , เครื่องเสียงรถยนต์ , เพาเวอร์แอมป์ 4 แชนแนล เอ-บี, เพาเวอร์แอมป์ 2 แชนแนล เอ-บี, เพาเวอร์แอมป์ 2 แชนแนล คลาสดี, ลำโพง15นิ้ว, ลำโพง12นิ้ว, อีควอไลเซอร์4แบนด์, อีควอไลเซอร์ 5แบนด์, อีควอไลเซอร์ 7แบนด์, คาปาซิเตอร์ 4.0 เอฟ, คาปาซิเตอร์ 4.5 เอฟ

view